Passionate-Pilgrim

ผลงานบทกวี The Passionate Pilgrim

Posted by

หากพูดถึงผลงานด้านกวี ชื่อที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ “วิลเลียม เชกสเปียร์(William Shakespeare) นักกวีชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงทางด้านการเขียนบทละคร และกวีเป็นอย่างมากโดยผลงานสร้างชื่อของเขาที่ยังหลงเหลือมายังปัจจุบันมีด้วยกว่ามากกว่า 38ผลงาน ใน38ผลงานนี้ยังแบ่งเป็นบทประพันธ์แบบsonnet อีกถึง 154 เรื่อง โดยเรื่อง sonneteer เป็นผลงานแบบsonnet ที่มีชื่อเสียงที่สุดของ เชกสเปียร์

The-Passionate-Pilgrim

หนึ่งในผลงานsonnetที่มีชื่อเสียงงานหนึ่งของเขาก็คือ The Passionate Pilgrim ได้ถูกตีพิมพ์ขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1599 อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า เชกสเปียร์ เป็นคนที่มีฝีมือในการเขียนบทละครมาก แต่ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1593 -1594 ได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงขึ้นจนไม่สามารถควบคุมได้ทำให้ โรงละคร การแสดงต่างๆถูกปิดตัวลงเป็นผลให้ เชกสเปียร์ ผันตัวเองขึ้นมาเป็นผู้เขียนบทกวีแทนการเขียนบทละคร ด้วยความที่ เชกสเปียร์เป็นคนที่มีความสามารถทางด้านงานเขียนอยู่แล้วทำให้ผลงานด้านกวีของเขา มีความสวยงามทางภาษาเป็นอย่างมาก โดย เชกสเปียร์ ได้เขียนกวี sonnet ลงในหนังสือ The Passionate Pilgrim โดยเหตุการณ์สำคัญที่มีผลต่อผลงานในหนังสือเล่มนี้ก็มาจากหลังเหตุการณ์ที่เกิดโรคระบาดขึ้นนั่นเอง เริ่มแรก เชกสเปียร์ ได้ตีพิมพ์ผลการเกี่ยวกับเรื่องอีโรติก 2เรื่องคือ Venus and Adonis และ The Rape of Lucrece โดยทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผิดศีลธรรมผิดบาปในเรื่องของความรัก และเรื่องของอารมณ์รักที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งสองเรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก ยังมีเรื่อง A Lover’s Complaint ที่กล่าวเกี่ยวกับความรักของหญิงสาวที่มีใจให้กับชายหนุ่มผู้เข้ามาจีบเธอ จนเสียความบริสุทธิ์ให้กับชายหนุ่มผู้นั้นไป อีกหนึ่งเรื่องที่ก็มีชื่อเสียงมากอีกเช่นกันที่ได้ตีพิมพ์ก็คือ  The Phoenix and the Turtle ที่เล่าเกี่ยวกับตำนานรักของนกฟีนิกซ์กับนกเขาที่นกฟินิกซ์ตายแล้ว สามารถเกิดใหม่ได้แต่นกเขาเมื่อตายแล้วไม่สามารถเกิดใหม่ได้ ทำให้ทั้งสองต้องพลัดพรากจากกันทั้งหมดได้ถูกตีพิมพ์อีกครั้งใน The Passionate Pilgrimในเวลาต่อมานั่นเอง

ถือว่าผลงานของ เชกสเปียร์ เป็นมรดกทางภาษาอีกชิ้นหนึ่งในคนรุ่นหลังได้มาศึกษาความสวยงามทางภาษาที่ละเอียดอ่อนสวยงาม และคุณค่าทางศิลปะที่ยังคงหลงเหลือมาสู่ยุคปัจจุบัน ที่บ่งบอกตัวตนและเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ในยุคนั้นๆได้เป็นอย่างดี อยากให้ทุกคนลองเปิดใจหันมาศึกษา สนใจงานเกี่ยวกับทางด้านศิลปะทางภาษากันเพื่อจะได้อนุรักษ์ไว้ไม่ให้มรดกชิ้นสำคัญของโลกชิ้นนี้สูญหายไป