“การเมือง” สิ่งที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานอยู่คู่กับทุกสังคมของทุกๆประเทศในโลก โดยการเปลี่ยนผ่านของยุคการเมืองแต่ละครั้งอาจมีความขัดแย้งสูญเสีย แต่ความแตกแยกทางความคิดจนนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งของคนสองกลุ่ม จนเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างไม่สามารถควบคุมและหลีกเลี่ยงได้ ในการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพเพื่อความสำเร็จของพวกพ้องของตนนั้น จำเป็นต้องมีการชุมนุมร่วมกลุ่มกันและเกิดการปลุกระดมทางการเมืองขึ้น โดยในการจะรวบรวมคนเป็นจำนวนมากได้ก็จะต้องอาศัยความเชื่อใจกันและไปในทิศทางเดียวกัน หากย้อนกลับไปในสมัยก่อนที่ยังไม่มีเครื่องมือสื่อสารที่แพร่หลาย ดังเช่นในปัจจุบันการปลุกระดมทางการเมืองจึงจำเป็นต้องเป็นการทำโปสเตอร์ การพูดปราศรัย การกล่าวคำคม นอกจากวิธีที่กล่าวมาก็ยังมีอีกวิธีที่ได้รับความนิยมในการปลุกระดมใจคนในไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งยังฮึกเหิม ก็คือการเขียนกวีที่เราเรียกว่า “กวีการเมือง”
ขึ้นชื่อว่า “กวี” ก็จะมีความสละสลวยทางภาษาเข้ามามีการเปรียบเทียบอุปมาอุดมการณ์ของพวกพ้องตนเป็นสิ่งต่างๆ ที่สวยงามเพื่อให้คนคล้อยตาม โดยกวีจะไม่เข้าไปมีอิทธิพลกับผู้อ่านโดยตรงแต่จะค่อยๆซึมซับเข้าไปเรื่อยๆ ด้วยความคล้องจองของบทกวีด้วยความสวยงามทางภาษาทำให้ กวี ก็เป็นอีกสื่อหนึ่งที่ถูกนำมามีบทบาทกับเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ โดยการนำเรื่องราวมาเล่าผ่านกวีให้เกิดความตื้นลึก ของเรื่องราวที่ผู้ประพันธ์นำมาถ่ายทอดให้เรื่องราวมีมิติเข้าถึงอารมณ์ได้มากยิ่งขึ้น โดยผู้ประพันธ์ก็จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนทางการเมืองเป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงของสังคม เป็นผู้ค่อยนำทิศทางของเหตุการณ์นั้น ในบางครั้งกวีทางการเมืองได้ถูกหยิบไปใส่ทำนองเป็นทำนองเพลงปลุกใจเพิ่มเพื่อให้เข้าใจง่าย และสามารถรับรู้ถึงอารมณ์ของบทกวีนั้นๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งการที่ผู้ประพันธ์ออกมาเขียนกวีทางการเมืองนี้แสดงให้เห็นว่าทุกๆคนมีความตื่นตัวทางการเมือง และ มีความตั้งใจที่แน่วแน่ในการเผยแพร่ปณิธานของตนเอง ด้วยความหวังที่จะเห็นสังคมเป็นไปในทิศทางที่ดีงาม โดยผลงานทางการเขียนต่างๆเหล่านี้มีคุณค่าควรแก่การศึกษาทั้งทางด้านเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ และ นำหลักการที่ถูกเขียนไว้มาเป็นบทเรียนเพื่อศึกษาต่อไป
สื่อให้เห็นว่าในเหตุการณ์รุนแรงยังมีกวีที่สวยงามคอยปลอบประโลมจิตใจ ของผู้ร่วมเหตุการณ์ให้ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายและร่วมอุดมการณ์ไปพร้อมกัน แสดงให้เห็นถึงศิลปะความสวยงามที่อยู่คู่กับทุกที่ทุกเหตุการณ์ในความรุนแรง หรือมืดมนก็ยังคงมีความสวยงามอยู่เสมอ เช่นเดียวกับเหตุการณ์หรือคืนวันร้ายๆที่มองกลับไปก็ยังพบกับความสวยงามอยู่เสมอ