Sir Walter Raleigh ประวัติ

Sir Walter Raleigh เป็นบุรุษผู้มากความสามารถ ทั้งกวี , นักเขียน , นักผจญภัย , โจรสลัด และนักล่าอาณานิคม เขาเป็นชนชั้นนำของอังกฤษรุ่นบุกเบิกที่มีส่วนร่วมในการสร้างตำนาน “British Empire” เขามีบทบาทในการเอาชนะกองเรืองสเปนในยุทธการ “Spanish Armada” เป็นอย่างมาก

Sir Walter Raleigh ผู้เผชิญหน้าความตาย ด้วยความเยือกเย็น

Sir Walter Raleigh ถือกำเนิดในตระกูลผู้ดีเก่าแห่งเมือง Devonshire เขาได้ใช้ชีวิตด้วยการออกท่องโลกทางทะเล ปล้นสะดมเรือสเปน , ปราบกบฏในไอร์แลนด์ จนได้รับการยกย่องให้เป็นคนโปรดของ ราชินีพรหมจรรย์แห่งอังกฤษ อีกทั้งยังเป็นคนสูงโปร่ง , หล่อเหลา , พูดเก่ง มีความเป็นปัญญาชน พระราชินีจึงโปรดเขามาก

พระนางทรงแต่งตั้งให้เขาเป็นหัวหน้าหน่วยทหารราชองค์รักษ์ เมื่อสิ้นพระนางเจ้าอลิซาเบธ กษัตริย์ James I ก็ขึ้นครองราชย์แทน หลังจากนั้นเพียงไม่นาน Raleigh ก็ถูกจับกุมในข้อหากบฏ เขาถูกกักตัวอยู่บริเวณอยู่ใน Tower of London นานถึง 12 ปี ในช่วงแรกเขาพยายามฆ่าตัวตาย หากแต่ต่อมาก็ทำใจได้ เขาจึงใช้เวลาเขียนหนังสือวันแล้ววันเล่า จนเขาปิ๊งไอเดียกุเรื่อง ‘มนุษย์ทองคำ’ ขึ้นมา และขอให้กษัตริย์ปล่อยตัวเขา เพื่อให้ออกไปตามล่าหาขุมทรัพย์ทองคำ

กษัตริย์ก็ทรงเชื่อเขายอมปล่อยตัว ภายใต้ข้อแม้ว่าเขาจะต้องหลีกเลี่ยงการปะทะกับกองกำลังสเปนอย่างเด็ดขาด หากแต่เขาก็ยังได้เข้าประจัญบานกับกองเรือสเปนจนได้ เมื่อกลับมาเขาถูกตัดสินประหารชีวิต

เช้าวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 1618 ลานประหารอัดแน่นไปด้วยผู้คน ชายคนหนึ่งส่งแก้วไวน์ให้เขาดื่ม เขาดื่มรวดเดียวจนหมด เมื่ออยู่บนตะแลงแกง เขาทำความเคารพทุกคนที่เขารู้จัก และขอให้เพชฌฆาตนำขวานมาให้เขาดูใกล้ๆ ก่อนลองนำหัวแม่มือลูบคมดู

เพชฌฆาตลงขวานถึง 2 ครั้ง !! หากแต่ริมฝีปากของเขาก็ยังขยับได้ !! หัวหน้าเจ้าพนักงานขยุ้มเอาเส้นผมแล้วชูศีรษะของเขาขึ้นเพื่อให้เห็นได้ทั่วกัน โดยการตายของเขานำมาซึ่งความไม่พอใจของขุนนางและประชาชนอังกฤษบางส่วนต่อกษัตริย์ เกิดการวิพากษ์ วิจารณ์ว่ากษัตริย์ใจแคบและโหดร้ายเกินไป บางคนก็กลับไปเป็นพวกเกลียดกษัตริย์ อย่าง Sir John Eliot เป็นต้น

การตายของ Raleigh ทำให้เขากลายเป็นวีระบุรุษ ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ เขามีความสามารถหลากหลายด้าน หากแต่นิสัยมั่นใจในตัวเองจนเกินเหตุของเขา ก็จึงทำให้เกิดศัตรูโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนิสัยเสียอีกอย่างหนึ่งที่เป็นจุดอ่อนสำคัญของเขา คือ ‘ชอบขี้โม้’ นั่นเอง เมื่อไม่มีพระราชินีคอยปกป้อง นิสัยเหล่านี้ก็กลับมาทำร้ายเขา แต่การเผชิญความตายด้วยความกล้าหาญ จึงทำให้เขากลายเป็นตำนานเล่าขานสืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้