เรื่องนี้เป็นคำสอนของแม่ที่บอกเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของศาสนาอิสลามที่ต้องใช้ชีวิตตามแนวทางที่ต้องพบเจอกับคนที่เข้ามาในชีวิต ที่ต่างศาสนากันการดำรงชีวิตทางด้านกิจกรรมจึงไม่เหมือนกัน คำสอนก็แตกต่างกันทำให้มีความคิดที่ไม่เหมือนกัน

บทกวีผลงานนักเขียนฝีมือเยี่ยม
เรื่องนี้เป็นคำสอนของแม่ที่บอกเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของศาสนาอิสลามที่ต้องใช้ชีวิตตามแนวทางที่ต้องพบเจอกับคนที่เข้ามาในชีวิต ที่ต่างศาสนากันการดำรงชีวิตทางด้านกิจกรรมจึงไม่เหมือนกัน คำสอนก็แตกต่างกันทำให้มีความคิดที่ไม่เหมือนกัน
เป็นหนังสือบทกวีจากต่างประเทศที่ชื่อว่า The Alchemist ถูกแต่งขึ้นโดย เปาโล คูเอลญู ถูกแปลเป็นไทยโดยนักแปลที่ชื่อว่า ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ เรื่องราวของกวีเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่พูดถึงการเดินทางเพื่อทำการออกค้นหาขุมทรัพย์ของเด็กหนุ่มเลี้ยงแกะที่เขาได้ฝันถึงเงินทองมากมายที่พีระมิดในอียิปต์ ตลอดการเดินทางที่ว่านี้เขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ยังได้เจอกับความลี้ลับต่างๆ ที่ตัวเขาเองก็ไม่สามารถจะหาคำตอบได้เช่นเดียวกันว่าสิ่งที่เขาเจอมันคืออะไรกันแน่ ทว่าสิ่งที่เขาสามารถรับรู้ได้เพียงอย่างเดียวก็คือการทำตามเสียงหัวใจของตัวเองเพื่อต้องการที่จะให้บรรลุในเป้าหมายให้จงได้ ระหว่างการเดินทางของเขาทำให้เขาได้พบเจอกับคนต่างๆ มากมาย อาทิ คนที่ไม่เคยมีความฝันอะไรเลยตลอดชีวิต, บางคนมีฝันแต่เลือกจะไม่ทำตามฝันที่มี,
จริงๆ แล้วหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ถูกแต่งขึ้นจากชีวิตจริงของเด็กสาวที่ชื่อ แอนน์ แฟรงค์ เด็กสาวชาวยิวผู้โชคร้ายเมื่อเขาเป็นคนเชื้อสายยิวที่ต้องเกิดและเติบโตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่พวกนาซีต้องการจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว การเขียนหนังสือเล่มนี้จึงเป็นสิ่ที่บรรยายชีวิตความเป็นอยู่ของเขาจากการที่เขาต้องหลบซ่อนเหล่าบรรดาทหารที่จะคอยจับตัวชาวยิวทั้งหลายไปยังค่ายกักกันเพื่อให้ทำงานหนัก หรือไม่ก็ฆ่าทิ้งอย่างโหดร้าย ความงดงามของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่ แอนน์ แฟรงค์ เด็กสาววัยใส่ค่อยๆ บรรยายเรื่องราวต่างๆ ที่เธอพบเห็นออกมาทุกวันๆ จนกระทั่งเธอถูกพบและถูกจับคุมในที่สุด หลังการถูกจับกุมเธอเสียชีวิตจากการป่วยเป็นโรคระบาดภายในค่ายกักกัน ทำให้เธอต้องจบชีวิตลงด้วยวัยไม่กี่ปีเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อสงครามสิ้นสุดลงก็มีคนได้ไปพบกับบันทึกของเธอเข้าจนเลือกที่จะมาตีพิมพ์เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้ถึงเรื่องราวอันน่าหดหู่ใจในช่วงชีวิตที่เธอต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ